สระว่ายน้ำแบบไหนคุ้มค่า

ตกแต่ง ต่อเติมสระว่ายน้ำใหม่ เลือกแบบไหนคุ้มคาที่สุด

ปัจจุบันการตกแต่ง ต่อเติมบ้านได้รับความนิยมอย่างมาก มักเลือกทำเฉพาะบ้านที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ใช้สอย หรือ ซ่อมแซมบ้าน บริเวณที่มักต่อเติมกัน เช่น หลังคา พื้นบ้าน ห้องน้ำ ห้องครัว โรงจอดรถ เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นบริเวณที่พบปัญหามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น น้ำรั่วซึม ผนังแตกร้าว คราบน้ำ สีหลุดล่อน สร้างความกังวลใจให้กับเจ้าของบ้านอย่างมา เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปการออกแบบบ้านมีความก้าวหน้า สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคสมัยนี้อย่างมาก “การสร้างสระว่ายน้ำ” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายครอบครัวมักต่อเติมเพิ่ม แต่เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่มาก และต้องเป็นพื้นที่ที่เหมาะสม เพราะหากเลือกพื้นที่สร้างไมถูกหลัก อาจส่งผลเสียต่อบ้านได้เช่นกัน

การออกแบบ สร้างสระว่ายน้ำ ช่วยส่งเสริมเรื่องฮวงจุ้ยในด้านต่างๆ ส่งผลดีกับสมาชิกภายในบ้าน รูปแบบการสร้างและประเภทสระว่ายน้ำ มีให้เลือกอย่างเช่น สระว่ายน้ำคอนกรีต สระว่ายน้ำสำเร็จรูป โดยแต่ละประภทมีความแตกต่างกันออกไป เน้นก่อสร้างจากวัสดุที่มีความทนทาน แข็งแรง ป้องกันการรั่วซึม แต่ถึงแม้จะเลือกช่างสร้างที่ดีแค่ไหน เมื่อมีการใช้ง่านระยะยาว ก็สามารถพบปัญหาเช่นกัน เพราะฉะนั้นพี่เข้มาพร้อมกับ สร้างสระว่ายน้ำแบบไหนคุ้มค่า ปัญหาน้อยที่สุด เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีให้กับผู้ที่กำลังต้องการสร้างสระว่ายน้ำ

โครงสร้างมี 2 แบบ คือ สระว่ายน้ำคอนกรีต / สระว่ายน้ำสำเร็จรูป

สระว่ายน้ำคอนกรีต  

โครงสร้างเป็น คอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรง ทนทาน มีลักษณะรูปทรงตามสระว่ายน้ำ พื้น และผนังป้องกันการรั่วซึม นิยมเลือกวัสดุปูพื้น ผนัง กระเบื้องเซรามิก หรือโมเสก สามารถออกแบบรูปทรงได้หลากหลาย

ข้อดี

– ได้มาตรฐาน แข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานได้นาน 30 – 40 ปี 
– ออกแบบรูปทรง ขนาด ความลึก หรือ เลือกใช้วัสดุปูผิวได้หลากหลาย 
– เลือกระบบน้ำล้น และสกิมเมอร์
– เพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ได้ตามที่ต้องการ

ข้อเสีย

– ราคาค่าก่อสร้างสูง 
– ยุ่งยาก ซับซ้อน ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 3 – 5 เดือน

สระว่ายน้ำสำเร็จรูป

โครงสร้างสระสำเร็จรูป ใช้ไฟเบอร์สร้างความแข็งแรง ให้กับผนังโครงสร้าง ใช้เวลาในการสร้างน้อย แต่พบปัญหาในการรั่วซึมค่อนข้างมาก โดยส่วนใหญ่มักติดตั้งอยู่บนโครงสร้างแผ่นพลาสติกพิเศษ หรือ ผ้าไวนิล  เพื่อกักเก็บน้ำ ป้องกันการรั่วซึม

 ข้อดี

– ก่อสร้างง่าย ใช้เวลาก่อสร้าง 30 – 60 วัน
– ควบคุมงบประมาณการสร้างได้ดี 
– สามารถเปลี่ยนแปลง รื้อถอนได้ง่าย

ข้อเสีย

– ออกแบบรูปทรง ขนาด ได้น้อย 
– มีการรีโนเวททุกๆ 5 – 8 ปี
– สระที่ใช้แผ่นพลาสติกดูไม่สวยงาม ไม่เนียนเรียบเท่ากับสระที่หล่อจากไฟเบอร์
– ใช้ระบบสกิมเมอร์เท่านั้น

สำหรับระบบบำบัดน้ำในสระที่นิยมใช้มีอยู่ 3 ระบบ คือ ระบบคลอรีน ระบบน้ำเกลือ ระบบโอโซน  เพราะฉะนั้นเลือกระบบที่เหมาะสมต่อการใช้งานที่สุด เพื่อช่วยให้สระว่ายน้ำของคุณสะอาด บริสุทธิ์  เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ว่าโครงสร้างสระว่ายน้ำมีความแตกต่างกันออกไป ควรเลือกโครงสร้างที่เหมาะกับพื้นที่บ้าน และความต้องการใช้งาน หากไม่แน่ใจ แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือ สถาปนิก ในกรณีที่สระว่ายน้ำเกิดการรั่วซึม หรือ พื้นแตกร้าว แนะนำเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จระเข้ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ดูแลทุปัญหากวนใจ