การดูแลสระว่ายน้ำให้สะอาดวิ้งอยู่เสมอไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่คุณคิด จริงอยู่ที่สระว่ายน้ำมีหลายรูปแบบและอาจต้องการการดูแลที่แตกต่างกันออกไป แต่สระทุกสระล้วนมีหลักพื้นฐานบางอย่างในการดูแลให้สระว่ายน้ำดูเหมือนใหม่อยู่เสมอได้
1. เตรียมพร้อมก่อนเปิดสระ
หากคุณปิดสระว่ายน้ำชั่วคราวในบางฤดูกาลที่ไม่มีคนลงใช้ ขอให้แน่ใจว่าคุณได้ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบสระทั้งคราบสกปรกและกวาดเศษใบไม้ต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนที่จะเปิดผ้าคลุมสระว่ายน้ำออกอีกครั้ง จากนั้นใช้สายยางเติมน้ำลงไปในสระจนถึงระดับน้ำปกติ เดินเครื่องอุปกรณ์ต่างๆ ที่เคยปิดไว้ เพื่อให้น้ำไหลเวียนผ่านเข้าไปในระบบ เปิดช่องสกิมเมอร์เพื่อขจัดฝุ่นละอองที่ผิวน้ำ วัดระดับค่า pH ในน้ำ ซึ่งอาจใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้นจนกว่าน้ำในสระจะถึงจุดสมดุลที่คนสามารถลงเล่นได้ เปิดให้ปั๊มทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และลดความเร็ว 1-2 ชั่วโมงต่อวันจนกว่าน้ำจะสมดุล
2. เฝ้าระวังสระหากอาศัยอยู่ในพื้นที่หนาวติดลบ
หากคุณมีบ้านอยู่ในประเทศที่มีอากาศหนาวติดลบด้วย สระว่ายน้ำของคุณก็จะมีเรื่องที่ต้องระวังเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย เพราะการแข็งตัวของน้ำที่ค้างอยู่ในท่อท่ามกลางอากาศที่หนาวจัดสามารถก่อให้เกิดความเสียหายได้ วิธีแก้คือให้ใช้เครื่องอัดอากาศเป่าไล่น้ำออกจากปั๊มออกให้หมดเมื่อคุณปิดสระ รวมทั้งกำจัดน้ำออกจากเครื่องกรองด้วย ถอดปลั๊กปั๊มน้ำ ปั๊มสารเคมีและอื่นๆ จากนั้นให้ทำความสะอาดสระว่ายน้ำด้วยการขัดผนัง ทำความสะอาดตะกร้าสกิมเมอร์ ปิดวาล์ว ลดระดับน้ำลงมาให้ต่ำกว่าเครื่องผลิตคลอรีน 45 เซนติเมตรโดยประมาณ และคลุมสระว่ายน้ำเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกตกลงไป
3. หารอยรั่วให้เจอแล้วจัดการมันซะ
บางครั้งมันก็ยากที่จะแยกว่าน้ำในสระที่หายไปเกิดจากการระเหยหรือว่าสระรั่วกันแน่ คุณสามารถทำการทดสอบได้โดยเติมน้ำลงในถังพลาสติก 3 ใน 4 ของความจุแล้วขีดเครื่องหมายที่ตำแหน่งระดับน้ำภายในถังไว้ จากนั้นนำถังลงไปใส่ในสระแล้วทำเครื่องหมายของระดับน้ำภายในสระไว้ที่ตัวถังด้านนอกแล้วปล่อยทิ้งไว้ 2-3 วัน หากน้ำในถังและน้ำในสระหายไปพอกันๆ แปลว่ามันเกิดจากการระเหย แต่หากระดับน้ำในสระหายไปมากกว่าระดับน้ำในถังแปลว่าสระของคุณมีรอยรั่วแล้วล่ะ ได้เวลาโทรตามช่างมาได้เลย
4. ฆ่าเชื้อน้ำในสระ
แอมโมเนียและไนโตรเจนเป็นสิ่งปนเปื้อนตามธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นในสระว่ายน้ำได้ตลอดเวลา คุณสามารถฆ่าเชื้อในสระว่ายน้ำได้ด้วยการใช้คลอรีน บางสระอาจจำเป็นต้องทำสัปดาห์ละครั้ง แต่บางสระอาจอยู่ได้นานมากกว่านั้น
5. รักษาค่า pH
ค่า pH ของน้ำในสระที่ 7.2 – 7.8 ถือว่าอยู่ในช่วงกำลังดีและปลอดภัยต่อการลงเล่นน้ำ คุณสามารถเช็คค่า pH ของสระว่ายน้ำได้ด้วยตัวเองโดยการใช้ชุดอุปกรณ์การวัดค่า จากการนำตัวอย่างน้ำในสระมาแล้วหยดน้ำยาทดสอบลงไปเพื่อเทียบสี หรือว่าจะใช้เป็นอุปกรณ์ที่ต้องจุ่มลงไปในสระโดยตรงแล้วค่อยนำออกมาเทียบกับชาร์ตสีข้างนอกก็ได้
6. ตรวจสอบระดับน้ำในสระ
โดยปกติแล้วน้ำในสระสามารถหายไปได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการระเหยตามธรรมชาติและการกระฉอกออกจากการลงเล่นน้ำ ทุกครั้งที่คุณทำความสะอาดสิ่งสกปรกจากสกิมเมอร์ให้ลองสังเกตระดับน้ำว่าไม่ควรต่ำกว่าระดับของสกิมเมอร์ที่ติดตั้งไว้ ไม่เช่นนั้นปั๊มอาจเกิดความเสียหายได้ หากเห็นว่าน้ำเริ่มต่ำลงให้ใช้สายยางฉีดเติมน้ำลงไป
7. เครื่องทำน้ำอุ่นสระว่ายน้ำ
เครื่องทำน้ำอุ่นสระว่ายน้ำเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการการดูแลน้อยที่สุดจากเหล่าบรรดาอุปกรณ์อื่นๆทั้งหมด เครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊สสามารถใช้งานได้ไปยาวๆ ถึง 2 ปีโดยไม่ต้องมีการซ่อมบำรุง ส่วนเครื่องทำน้ำอุ่นแบบไฟฟ้ายิ่งใช้งานได้นานกว่านั้น แต่ถ้าหากเกิดปัญหาขัดข้องใดกับอุปกรณ์ชิ้นนี้ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาแก้ไขโดยตรงมากกว่าพยายามที่จะซ่อมเอง
8. ทำความสะอาดตัวกรอง
จริงอยู่ที่เมื่อมีสิ่งสกปรกมาติดที่ตัวกรองเยอะๆ แล้วคุณควรทำความสะอาดมัน แต่จุดเล็กๆ ที่ควรระวังคือไม่ควรทำความสะอาดตัวกรองบ่อยจนเกินไป เนื่องจากสิ่งตกค้างที่มีอยู่ในตัวกรองสามารถช่วยดักจับอนุภาคสกปรกอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน จุดสังเกตง่ายๆ ว่าเมื่อใดได้เวลาทำความสะอาดตัวกรองแล้วให้ดูที่การไหลเวียนระหว่างเกจวัดแรงดันกับ flow meter หากมีค่าต่างกัน 4.5 – 6.8 กิโลกรัมต่อตารางนิ้วแล้วก็ให้ทำความสะอาดได้เลย
9. ดูดและขัด
ควรดูดทำความสะอาดสระว่ายน้ำทุกสัปดาห์เพื่อให้น้ำใสและลดระดับสารเคมีในน้ำ รวมทั้งขัดผนังสระเพื่อลดการสะสมตัวของแคลเซียม การเลือกแปรงขัดก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำผนัง แปรงแน่นๆ ใช้กับขอบสระคอนกรีตและแปรงขนนุ่มใช้กับไวนิลหรือไฟเบอร์กลาส ในส่วนของพื้นกระเบื้องให้ใช้แปรงขนอ่อนเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
10. ตักสิ่งสกปรกจากผิวน้ำ
ตักสิ่งสกปรกจากผิวน้ำทุกๆ สองถึงสามวันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุดในการรักษาสระว่ายน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะหากปล่อยนานไปเศษซากต่างๆ ที่ลอยอยู่อาจจมลงและยากต่อการจัดการใช้กระชอนด้ามยาวตักใบไม้ แมลง และสิ่งไม่พึงประสงค์อื่นๆ ออกจากผิวน้ำของคุณ และอย่าลืมทำความสะอาดตะกร้ากรองขยะสัปดาห์ละครั้ง เพียงเท่านี้สระว่ายน้ำของคุณก็จะดูเหมือนใหม่อยู่เสมอได้ง่ายๆ แล้ว