1. น้ำเขียว น้ำเขียวมักจะมีสาเหตุมาจากการขาดการดูแลหรือขาดสารเคมี ทำให้สาหร่ายและตะไคร่เจริญเติบโต เป็นผลทำให้น้ำมีสีเขียว ถ้าทิ้งไว้นานก็ยิ่งเขียวมากขึ้น จนกลายเป็นสีดำการแก้ไข ทำได้โดยการเติมคลอรีนลงไป และเดินระบบกรองและหมุนเวียนน้ำให้นานกว่าปกติ (หรือตลอดเวลา) ดูดตะกอนที่ตกลงมาก้นสระบ่อย ๆ และล้างเครื่องกรองให้บ่อยขึ้น ถ้า 2 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นหรือไม่ดีเท่าที่ควร ให้ใช้น้ำยาปรับสภาพน้ำใสร่วมด้วย ปัญหาน้ำเขียวน่าจะแก้ไขปัญหาได้ภายใน 3-4 วัน (สำหรับสระ 100 ลูกบาศก์เมตร) ถ้าสระขนาดใหญ่อาจจะต้องใช้เวลานานมากกว่านี้
2. ตะไคร่ ปัญหาตะไคร่มักเกิดจากการดูแลที่สม่ำเสมอหรือน้ำขาดสารเคมีทำให้ตะไคร่เจริญเติบโต ทั้งตะไคร่เขียว เหลืองและดำ ส่วนมากจะมีที่บริเวณผนังสระและตามร่องกระเบื้อง
การแก้ไข ทำได้โดยทำการขัดตะไคร่ และเติมน้ำยาควบคุมตะไคร่ วันรุ่งขึ้นจึงทำการดูดตะกอนที่ตกลงที่พื้นสระทิ้งไป หลังจากนั้นควรทำการเติมน้ำยาควบคุมตะไคร่เป็นประจำ และควรควบคุมค่าคลอรีนในสระไม่ให้ต่ำกว่ามาตรฐาน เพื่อช่วยควบคุมตะไคร่อีกทางหนึ่ง
3. น้ำมีสีที่แปลกออกไป การที่น้ำมีสีแปลกออกไปจากปกติเช่น สีแดงหรือสีสนิม เป็นต้น สาเหตุมาจากน้ำมีแร่ธาตุต่างๆ ปะปนอยู่ในปริมาณที่สูง เช่น เหล็ก สังกะสี เป็นต้น มักจะเกิดปัญหากับน้ำบาดาลเป็นส่วนใหญ่ การแก้ไข ทำได้โดยทำการเติมน้ำยาตะกอนโลหะลงในสระโดยเทคนิคในการใช้น้ำยาตกตะกอนโลหะคือเมื่อใส่ลงในสระแล้วต้องปิดระบบหมุนเวียนน้ำเพื่อให้โลหะที่ปะปนอยู่ตกตะกอนทิ้งไว้ 1 คืน และต้องรีบดูดตะกอนออกตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากถ้าอุณหภูมิสูงตะกอนจะลอย ทำให้ดูดตะกอนออกได้ไม่หมด หากมีการเติมน้ำใหม่เข้าสระก็ควรจะใช้น้ำประปาหรือน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วจะดีกว่า
การดูแลสระว่ายน้ำสำคัญคือตัวผู้ดูแลต้องเอาใจใส่ให้มากที่จะต้องคอยตรวจสอบค่าเคมีและศึกษาตัวสารเคมีให้เข้าใจก่อนที่จะใช้ ในการกรองหมุนเวียนน้ำก็ต้องตรวจสอบว่าตัวกรองสกปรกจะต้องล้างหรือไม่และระบบสระว่ายน้ำที่ดีก็จะเป็นระบบน้ำล้นเพราะสระจะไม่คอยจะสกปรกง่ายต่อการดูแลรักษา